PDA

View Full Version : ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๘


คิมหันต์
27-06-2010, 23:33
เสียงรถวิ่งทั้งคืน เดี๋ยวคัน เดี๋ยวคัน นี่ขนาดไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยวนะนี่ ท่านนาวินบอกว่าต้องหน้าปิดเทอมนั่นแหละ ทั้งคนทั้งร้านค้าจะมากกว่านี้หลายเท่า ตีสามกว่ารถทัวร์บีบแตรปลุกคนของเขาดังสนั่นหวั่นไหว แถมตะโกนเรียกซ้ำเข้ามาอีก เลยตื่นกันหมด…

อากาศเย็นเฉียบประมาณ ๑๒ – ๑๓ องศา ท่านกุมาระทำท่าสยองขวัญ เมื่อเห็นอาตมาราดน้ำโครม ๆ อยู่คนเดียว ไอตัวออกควันโขมง คราวนี้เดินตากอากาศอย่างสบาย ขณะที่คนอื่นทั้งห่มทั้งคลุมยังเดินสั่นงั่ก ๆ ไปตาม ๆ กัน อากาศที่เกาะพระฤๅษีต่ำกว่านี้ อาตมายังแสดงวีรกรรมสรงน้ำตอนเช้ามาแล้ว แค่นี้สบายมาก...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6111&stc=1&d=1277755304
ต้องซื้อตั๋วแล้วยัดกันขึ้นไปบนรถ ที่เขาจัดไว้สำหรับวิ่งขึ้นเขาโดยเฉพาะ
ฉันเช้าแล้วรีบไปตีตั๋วเพื่อขึ้นไปนมัสการพระธาตุ ค่ารถคนละ ๑๒๕ จั๊ต ถ้านั่งข้างหน้าจ่ายเพิ่มอีกคนละ ๕๐ จั๊ต เนื่องจากคนอื่นขาดความคล่องตัว ทั้งที่ตื่นก่อนตั้งนาน เลยถูกทิ้งตามระเบียบ มีอาตมา ท่านนาวิน กับท่านพรเท่านั้น ที่ไปทันรถเที่ยวแรก วิ่งไปตามทางแคบ ๆ ที่ไปได้เฉพาะคันเดียว ถึงด่านตรวจมีการนับจำนวนคนและรอหลีกด้วย...

รถคันของอาตมาคนเกินมา ๑ คน เด็กคนนี้เรียกว่าเป็นสาวแล้ว แต่แม่ของเธอจะนับว่าเป็นเด็กให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าโดยสาร มัวแต่เถียงกันอยู่ รถข้างบนลงมาแล้ว คันที่สองเลยแซงขึ้นหน้าไปก่อน กว่าที่แม่เธอจะยอมจ่ายเงินก็ต้องตามหลังเขา กินฝุ่นอิ่มไปเลย ดีที่อาตมานั่งข้างหน้า เขาเปิดฮีตเตอร์ให้ จึงรอดฝุ่นไปได้...

คิมหันต์
28-06-2010, 22:42
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6109&stc=1&d=1277754946
จ้างคนแบกสัมภาระให้แบบนี้ เวลาเดินขึ้นไปก็สบายหน่อย
ทางคดเคี้ยวขรุขระ ส่วนมากพังเพราะน้ำเซาะ บางตอนลาดคอนกรีต บางตอนลาดยางมะตอย บางตอนปูอิฐตัวหนอน แต่จะสภาพอย่างไรที่แน่ ๆ คือ แคบจนแซงกันไม่ได้ ขึ้นไปแค่ ๗ ไมล์ก็สุดทาง ช่วงที่เหลือไมล์กว่า ๆ ชันดิกเลย ใครจะขึ้นรถจ่ายมาซะดี ๆ เท่ากับช่วงแรก ถ้าจะไปคานหามจ่ายคนละ ๑,๐๐๐ จั๊ต..!

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6110&stc=1&d=1277754946
ถ้าจ้างคนหามขึ้นไปแบบนี้ก็สบายตัว แต่ลำบากกระเป๋าสตางค์..!
ถ้าจ้างเขาแบกของ แล้วแต่จะตกลงราคากันเอง อาตมาทั้งสามเลือกที่จะเดินลิ้นห้อยขึ้นไปมากกว่า เนื่องจากเห็นบรรดาปู่ย่าตายายส่วนใหญ่เดินไป บางคนตาบอดยังให้ลูกหลานจูงขึ้นไป ที่เจ็บปวดที่สุดคือ มีอยู่รายหนึ่งขาขาดทั้งสองข้าง ใช้ไม้เท้าค้ำขึ้นไปอย่างทรหดสุดใจขาดดิ้น ถ้าอาตมาไปรถคงอายหมาแน่ ๆ เลย..!

คิมหันต์
29-06-2010, 23:02
ทางมันชันจนแทบไม่มีที่ให้พักเลยจริง ๆ ท่านพรเดินไปบ่นไปว่า “ย่างปานหัวสิแตก..!” ตลอดทางมีแต่ร้านขายของเต็มไปหมด เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายน้ำดื่ม ร้านขายว่านยาสมุนไพรต่าง ๆ ฯลฯ บรรดางูเงี้ยวเขี้ยวขอ หัวเลียงผา ตลอดถึงปลาโลมาน้ำจืดทั้งตัว เขาแขวนไว้ขายระเกะระกะไปหมด...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6150&stc=1&d=1277827446
พระบรมธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชัน

แดดยามสายส่องกระทบองค์พระบรมธาตุอินทร์แขวนบนก้อนหินขนาดใหญ่ เหลืองอร่ามเห็นเด่นชัดแต่ไกล เขาปรับพื้นโดยรอบ ปูหินอ่อนเรียบร้อย ด้านขวามือเป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ ด้านหลังที่ทำการเป็นร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกเป็นร้อย ๆ ร้าน ผ่านองค์พระบรมธาตุจำลอง เข้าไปจนถึงองค์จริงด้านใน กราบด้วยความปีติอิ่มเอมในหัวใจ...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6151&stc=1&d=1277827446
เขาเชื่อกันมาแต่โบร่ำโบราณว่า พระอินทร์นำหินก้อนนี้มาวางไว้ให้สร้างพระเจดีย์

อาตมาได้ยินกิตติศัพท์ขององค์พระบรมธาตุมาตั้งแต่เด็ก สมัยนั้นการเดินทางยากเย็นแสนเข็ญกว่าจะมาถึง ยิ่งได้อ่านนิยายเรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน” ซึ่งเขียนโดย มาลา คำจันทร์ เข้าไปด้วย ยิ่งอยากจะมานมัสการมากขึ้น บัดนี้ความปรารถนานี้สมหวังแล้ว อาตมาสวดอิติปิโสถวายด้วยความปลื้มใจเป็นที่ยิ่ง...

คิมหันต์
30-06-2010, 22:48
ทันใดนั้นเองอาตมาเห็นท่านปู่พระอินทร์มาในชุดเต็มยศ เขียวปี๋เลย ปกติท่านไม่เคยมาให้เห็นในชุดนี้ กราบถามท่านว่า “ท่านปู่เอาหินก้อนนี้มาวางเอาไว้จริง ๆ หรือครับ...?” ท่านตอบยิ้ม ๆ ว่า “ปล่อยเขาเชื่อกันไปอย่างนั้นเถอะลูก ตอนนี้เขาสร้างเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ เทวดาต้องรักษาอยู่แล้ว..”

อาตมาปิดทองและสรงน้ำทานาคาถวายเป็นพุทธบูชา แล้วเดินหามุมสำหรับถ่ายรูป อุตส่าห์ประคับประคองเหลือฟิล์มม้วนสุดท้ายไว้ ๔ รูป สำหรับที่นี่โดยเฉพาะ ถ่ายครบสี่มุมหมดเกลี้ยงพอดี กราบลาองค์พระบรมธาตุแล้วเดินย้อนกลับมาทางเดิม ท่านนาวินหยุดซื้อน้ำมันว่านกับเลือดผาไปทำยา อาตมาเลยอาศัยใบบุญได้น้ำมันว่านมา ๑ ขวด...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6177&stc=1&d=1277933751
ท่านนาวินหาซื้อน้ำมันว่าน ขวามือของท่านคือซากโลมาอิระวดีตากแห้ง
เจอท่านกุสะละ ท่านกุมาระ โซยุนท์ วินจี หนุ่มเจ กับเจ้าโต เดินสวนขึ้นมาตอนนี้เอง นึกว่าจะไม่มากันซะแล้ว ลงมาถึงลานจอดรถ ท่านนาวินสั่งบะหมี่สำเร็จรูปเมดอินไทยแลนด์ใส่ไข่มาให้ฉันคนละชาม แม่ค้าเขาถามว่า "อร่อยไหม..?" ฮ่วย..ที่เกาะพระฤๅษีฉันแต่บะหมี่พวกนี้ทุกวัน หนีมาถึงพม่ายังตามมาหลอกมาหลอนกันอีก...ตูละหน่าย..!

พอพวกท่านกุสะละกลับลงมา ฉันน้ำกันเรียบร้อยก็พากันตีตั๋วลง วินจีตัวแสบมากำชับให้ท่านนาวินใช้เงินที่เก็บไปแล้วตีตั๋วเผื่อพวกเขาด้วย ก็พวกเอ็งอยากช้าเองนี่หว่า...จ่ายเองแค่ขาขึ้นนับว่ายังดี ถ้าไม่รออยู่ที่นี่ เอ็งต้องจ่ายขาลงอีกเที่ยว “แล้วจะรู่ซึก..!” แดดจัดขึ้น ร้อนจนบรรดาฝรั่งบ่นอู้ไปตาม ๆ กัน พวกเราลงมาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ...

คิมหันต์
03-07-2010, 00:26
รอพวกท่านกุสะละฉันเพลเพื่อช่วยจ่ายเงิน แล้วไปซื้อผลไม้กวนมาฉันกันแบบตายอดตายอยาก จากนั้นทุกคนไปอาบน้ำอาบท่า แล้วเดินทางกลับมุด่ง รถวิ่งไปได้ไม่นานมีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากใต้ท้อง หยุดลงไปดูปรากฏว่าโช้กขาด..! “หลวงปู่ครับ..” “ไปได้น่า ไม่ต้องห่วง...” ไปได้จริง ๆ โซยุนท์ใช้เชือกผูกไว้แล้ววิ่งต่อหน้าตาเฉย..!

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6233&stc=1&d=1278191280
เพิ่งจะเห็นรถทัวร์จอดซ่อม อีกพักเดียวรถของเราก็เจ๊งบ้าง..!
อากาศร้อนแถมหนังท้องตึงด้วย “โป๊ก..! โอ๊ย..!” ซ้ำที่เดิมพอดีเลย ของีบนิดเดียวน่า.. “โป๊ก..! โป๊ก..!” โดนเข้าอีกสองทีซ้อน หูตาสว่างโร่ ยอมถ่างตาเป็นเพื่อนคนขับแต่โดยดี ท่านนาวินตื่นขึ้นมาเห็นอาตมาหัวปูด ได้แต่มองแบบงง ๆ อาตมาบอกหน้าตายว่า “ง่วงมากสัปหงกไปโขกเอารถเข้าพอดีนะซี...” ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ..!

คิมหันต์
04-07-2010, 21:53
ถึงเมืองตะโทง ต้องลงไปเอาลวดพันโช้กใหม่เพราะเชือกมันขาด คลานมาจนถึงท่าแพขนานยนต์ริมอ่าวเมาะตะมะ แม่เจ้าโว้ย..! รถราทำไมมากมายอย่างนี้ คิวยาวเกือบห้ากิโลได้กระมัง..? วันนี้จะได้ข้ามหรือไม่นี่..? ดูคนอื่นเขาก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร หลายคนเอาเสื่อลงมาปูนอนรอซะเลย..!

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6241&stc=1&d=1278275443
เดินสำรวจตลาด มีอาหารทะเลพวกกุ้ง หอย ปู ปลา เต็มไปหมด
อยู่ว่าง ๆ เลยเดินสำรวจตลาดไปในตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม ผงซักฟอก ล้วนแล้วแต่เมดอินไทยแลนด์ทั้งนั้น ที่ร้ายที่สุดคือ เครื่องดื่มตราวัวชนกันมีทุกร้านเลย และต้องเป็นแบบกระป๋องด้วยนะ แบบขวดไม่นิยม คู่แข่งยี่ห้อชูสองนิ้วมีเหมือนกัน แต่ไม่ดังเท่า อาจจะเป็นเพราะไม่มีแบบกระป๋องก็เป็นได้...

คิมหันต์
05-07-2010, 19:44
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง จึงทราบว่าแพขนานยนต์ลำใหญ่เสีย ลำเล็กไปรับงานที่ไหนก็ไม่รู้ มีตำรวจร่างอ้วนมาช่วยจัดระเบียบแถวรถเสียใหม่ ให้พวกรถบรรทุกไปรวมกันอยู่แถวหนึ่ง พวกรถเล็กไปรวมกันอยู่ด้านหนึ่ง บอกให้ดีใจว่า ถ้าแพมาแล้วจะให้รถเล็กไปก่อน เพราะจะไปได้ทีละมากกว่า ถ้ารถบรรทุกลงไม่กี่คันก็เต็มแพแล้ว...

สำรวจตลาดต่อ ทุกร้านมีโปสเตอร์ดาราทั้งนั้น และมีซ้ำกันอยู่ไม่กี่คน ดาราหญิงล้วนแล้วแต่อวบท้วมล่ำบึ้ก หาที่เอวบางร่างน้อยไม่ได้สักราย เครื่องดื่มมึนเมามีเบียร์ตราเสือ คู่แข่งกับเบียร์ตราเรือการเวก น้ำดำยี่ห้อดังไม่มีทั้งคู่ ได้ยินว่าถูกบริษัทแม่ที่อเมริกาถอนการลงทุนกลับ เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหาร...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6272&stc=1&d=1278359389
ถ้าไม่อวบระยะสุดท้าย ไม่มีทางทางได้เป็นดาราพม่า..!

สี่โมงครึ่งแพเล็กเก่างั่กกั้กมาจากไหนไม่รู้ ? มารับทั้งรถทั้งคนที่ตกค้างยาวเกินสิบกิโล รถใหญ่ไม่มีใครยอมเสียสละให้รถเล็ก เนื่องจากว่าถ้าหมดเวลาทำการตอนหกโมงเย็นแล้ว ใครจะไปจะมาต้องเช่าเหมาลำ ซึ่งต้องจ่ายแพงกว่าปกติหลายเท่า โซยุนท์บอกว่าจะนอนเฝ้ารถเอง ให้พวกเราข้ามไปหารถสองแถวกลับวัดไปก่อน...

http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=6273&stc=1&d=1278359389
ยัดทั้งคนทั้งของจนล้นขึ้นหลังคา มันยังรับผู้โดยสารเพิ่มไปเรื่อย..!

กว่าจะจัดรถลงแพ กว่าจะวิ่งข้ามอ่าวเมาะตะมะ ก็ ๑๗.๓๐ น. ยังต้องเดินอีกเป็นไมล์เพื่อไปขึ้นรถสองแถว ทันเที่ยวสุดท้ายพอดี มันยัดคนเข้าไปแน่นเอี๊ยด มีของล้นหลังคา วิ่งไปก็หยุดเก็บของไปเพราะตกอยู่เรื่อย มาถึงมุด่งทุ่มครึ่ง ท่านนาวินพาแวะฉันน้ำที่บ้านญาติก่อน จากนั้นเดินฝ่าความมืดกลับวัดเจ้าไวกัน...

ท่านอาจารย์ใหญ่จะชวนคุย แต่อาตมารีบขอตัวก่อน มันปวดท้องขี้ ขืนให้ท่านคุยไม่เลิกมีหวังขี้ราดกันพอดี ปล่อยท่านนาวินคุยไปคนเดียว เข้าส้วมแล้วมาสรงน้ำ ซักผ้า เสร็จงานรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด เสียงแว่ว ๆ ว่าโซยุนท์มาแล้ว แพเที่ยวสุดท้ายรับมาแต่รถเล็ก เพราะน้ำลงมาก รับรถใหญ่จะเข้าเทียบท่าไม่ได้ นับว่าโชคดีไป...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป (http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1957)