PDA

View Full Version : ยารักษาโรคเลือดแผนโบราณ


ชินเชาวน์
24-02-2009, 21:07
คัดมาจากหนังสือ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๕ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ถาม : ท่าน (หลวงปู่ชีวกฯ) ให้บอกตัวยา

ตอบ : ว่ามา อะไรบ้าง ? ทีละอย่าง

ถาม : รักษาโรคเลือดเจ้าค่ะ

ตอบ : โรคเลือด โรคเลือดนี่รักษาเอดส์ได้ด้วย มีอะไรบ้าง ?

ถาม : หญ้าหนวดแมว ๓ บาท ทองพันชั่ง ๓ บาท ตะไคร้ ๑๐ บาท ขิง ๑ บาท เอาต้มรวมกัน ใส่น้ำไป ๑ ลิตร ต้มเคี่ยวจนเหลือ ๑ แก้ว กินให้ติดต่อกัน ๗ วัน วันละ ๑ แก้ว ก่อนนอน

ตอบ : ตัวยาต้องเปลี่ยนไหม ? หรือว่าทั้ง ๗ วัน ใช้ตัวยาชุดเดียว?

ถาม : ใส่ตัวยาใหม่ตลอด อย่าซ้ำของเดิม กินไปอาการจะทุเลาลง

ตอบ : แก้โรคเลือดนี่ แก้เอดส์ได้ด้วยนะ เพราะว่าเอดส์นี่เลือดเป็นพิษ ... อาการจะดีขึ้น... คำว่าดีขึ้น ไม่ได้แปลว่า ไม่ตายนะจ๊ะ.... แล้วทำบุญอะไรก็ตั้งใจนึกถึงท่านปู่บ้างนะ ท่านถึงจะไปพระนิพพานแล้ว ก็ยังเป็นห่วงพวกเราอยู่ สมัยนี้เป็นเอดส์กันเยอะ....

เวลาต้มนี่ให้ใช้หม้อดินจะดีกว่า เพราะว่าโลหะบางทีทำให้ธาตุยาเสียไป กินก่อนนอนทุกวัน ๗ วันติดต่อกัน พอรุ่งขึ้นก็เปลี่ยนยาใหม่เลย ยานี่ใช้ได้ทีเดียว ๗ วัน อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น อย่าไปคิดว่าไม่ตายนะ... ดีขึ้น คนดี ๆ ยังตาย คนป่วยจะรอดไปได้อย่างไร

แต่ว่าอย่างน้อย ๆ ก็บรรเทาอาการเวทนาได้ ปู่หมอชีวกโกมารภัจ บอก...เป็นวิทยาทาน ปู่ท่านถนัดภาษาสันสกฤตมากกว่า น้ำนี่ถ้าได้น้ำฝนยิ่งดี ตัวยานี้ถ้าหาทั่วไปไม่ได้ ให้ไปที่ร้านเจ้ากรมเป๋อ อยู่ที่จักรวรรดิ ของง่าย ๆ อย่างนี้หาได้อยู่แล้ว

ถาม : อันนี้เป็นของสดหรือของแห้ง ?

ตอบ : ของสด

ถาม : เจ้ากรมเป๋อไม่มีของสด

ตอบ : เจ้ากรมเป๋อไม่มีสดใช่ไหม ? ถ้าอย่างนั้นหาเองเลย ก็ไม่ยากนี่ ที่จะยากนิดก็ทองพันชั่ง แต่ทองพันชั่งนี่ ถ้าเจอ จะเจอเป็นดงเลย เพราะว่าขึ้นง่าย ถ้าหาไม่ได้โน่น ไปที่ศูนย์จัดการต้นน้ำทองผาภูมิ มีเป็นคันรถ

ถาม : หลวงปู่ยังบอกไม่หมดเจ้าค่ะ (หลวงปู่ชีวกฯ)

ตอบ : มีอะไรอีกจ๊ะ ?

ถาม : คนที่เป็นความดันสูงห้ามกินเจ้าค่ะ

ตอบ : ความดันสูงห้ามกิน เพราะว่าอาจจะไปเพิ่มความดัน เพื่อให้เลือดวิ่งเร็วขึ้น การฟอกเลือดจะได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากเป็นความดันสูงห้ามกินนะ ระวังไว้ด้วย

บทสนทนาต่อจากนี้ว่าโดยสรุป ท่านแนะนำว่าให้ใช้ของสดดีกว่าของแห้ง และโรคนี้ยาบรรเทาได้แค่ไม่เกินกฎของกรรมเท่านั้น


ส่วนของโกร๊ธฮอร์โมน อยู่ในบทสนทนาที่ได้จากการถอดเทปตอนหนึ่ง ดังนี้

ถาม : ผมลองทำดูแล้ว ปรากฏว่าก็ไม่เห็น... คืออาจจะเป็นเพราะ...(ไม่ชัด)...ผมเข้าใจว่าได้น้ำเยอะ แล้วแบ่ง ๓ ถ้วย

ตอบ : ขมิ้นชันเท่าหัวแม่มือ หญ้าแพรกหนึ่งกำมือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย ๓๐ นาที

ถ้ารักษาโรคมะเร็ง ต้องไม่เกินระยะที่สอง ให้กิน ๓ วัน เช้าละถ้วย ถ้าหากรักษาโรคเบาหวานให้กิน ๓ วัน เว้น ๗ วัน แล้วกินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน กินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน รวมแล้วกิน ๓ ครั้ง ระหว่างเวลาที่กินอยู่ก็เท่ากับเดือนหนึ่ง ๓ เว้น ๗ ก็ ๑๐ ใช่ไหม ?

ระหว่างที่กินเดือนหนึ่ง เขาห้ามกินของหวานกับกะปิ เพราะฉะนั้น..จะรักษาโรคเบาหวานนี่ลำบากหน่อย ถ้าเป็นโรคอักเสบภายใน ประเภทตับอักเสบ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ อะไรพวกนี้ รักษาได้ทั้งนั้น กินลักษณะเดียวกับมะเร็งก็คือว่ากิน ๓ วันเท่านั้น

ถาม : แล้วจะมีอาการบอกไหมว่า กินถ้วยแรกแล้วจะมีอาการอะไรขึ้นมาแล้วมีสิทธิ์จะหาย

ตอบ : ไม่มี อาตมาเคยกินเข้าไปหวานเจี๊ยบเลย ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตัวเองเป็นโรคอะไร หวานเหมือนอย่างกับใส่น้ำตาลเลย ลองทำกินดู เพราะว่ายาไม่มีอันตรายอะไร กินเปล่า ๆ ก็ได้

คนเก่า
25-02-2009, 09:55
ว่าจะตั้งเป็นกระทู้ใหม่ เห็นว่าเริ่มเรื่องในกระทู้นี้ไว้แล้ว เลยมาต่อเติมให้สมบูรณ์ เพราะอยู่ในเหตุการณ์พร้อม ดร.ตั้ม ขณะที่พระอาจารย์บอกยานี้ และคุณตั้มก็เขียนเป็นวิทยาทานไว้ด้วย จึงลอกมาแปะ ง่ายดี ฮิ ๆ

.........................................................

ตำรับยารักษาโรคโลหิตเป็นพิษของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ

เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ก.ค. ๒๕๕๐ ผมได้ไปถวายสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์ ช่วงเวลาที่หลวงพี่เล็กว่างจากการรับสังฆทาน ท่านได้เล่าให้ฟังว่า หลายวันก่อนท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ท่านคงว่าง ท่านเลยลงมานั่งคุยด้วย เป็นการมาในลักษณะเหมือนการเข้าทรง โดยผ่านร่างของหญิงสาวท่านหนึ่งที่มาบ้านอนุสาวรีย์ แล้วท่านก็ได้บอกตำรับยาสำหรับรักษาโรคโลหิตเป็นพิษให้ไว้

พอผม (ดร.ตั้ม) ได้ยินหลวงพี่เล็กท่านเล่าถึงตำรับยาดังกล่าว ก็ได้ขอตำรับยานั้นไปโดยคุณเล็กเป็นผู้จดให้ และรู้สึกดีใจมากที่ได้ยาวิเศษของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ผู้เป็นแพทย์ที่ถวายการรักษาแก่พระพุทธเจ้า เหตุที่ดีใจมากก็เนื่องจากขณะนั้น มีรุ่นน้องที่ป่วยด้วยโรคโลหิตเป็นพิษ กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๔๙ แล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ซ้ำร้ายกลับมีอาการหนักขึ้น เพราะพิษที่อยู่ในกระแสเลือดได้เริ่มเข้าสู่หัวใจแล้ว คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาก็พยายามหาสาเหตุที่ทำให้โลหิตเป็นพิษ เพื่อที่จะทำการรักษากันอย่างสุดความสามารถ

จนกระทั่งเมื่อผม (ดร.ตั้ม) ได้นำตำรับยาที่ได้รับมาไปบอกให้ทราบ น้องเขาก็ให้ทางบ้านไปร้านขายยาแผนโบราณ จัดยามาให้ตามที่ได้จดมา ในคืนแรกที่น้องเขากินยา พอรุ่งเช้าก็มีการถ่ายท้องประมาณ ๑ - ๒ ครั้ง แล้วอาการถ่ายท้องก็หายไป ในวันนั้นเอง ผลการตรวจเลือดของวันก่อนที่จะกินยาออกมา ปรากฏว่าพิษได้เข้าสู่หัวใจไปแล้ว และแพทย์เริ่มหาสาเหตุของการที่โลหิตเป็นพิษพบ จึงพยายามให้ยาอย่างเต็มที่ โดยกำหนดให้ยาโดยการฉีดเข้าสู่เส้นเลือดตามจำนวนวันที่กำหนดไว้

คืนที่ ๒ น้องเขากินยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจไปอีก พอรุ่งเช้าสอบถามดูก็ปรากฏว่ามีการถ่ายท้องนิดหน่อย แต่ไม่เหมือนวันแรก แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ผลการตรวจเลือดของเมื่อวาน (หลังจากที่กินยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจไปแล้ว ๑ แก้ว) ปรากฏว่า พิษที่อยู่ในกระแสเลือดหายไป คงเหลือเพียงส่วนที่เข้าสู่หัวใจอีกเพียงเล็กน้อย แพทย์ที่ทำการรักษาดีอกดีใจเป็นการใหญ่ แต่ก็งุนงงกับผลการรักษาที่เกิดขึ้น

หลังจากที่กินยาไป ๕ วัน ผลการตรวจเลือดออกมาว่า พิษที่เข้าสู่หัวใจหายไปแล้ว แพทย์ต่างก็มาแสดงความยินดีกับน้องเขาเป็นการใหญ่ และได้สั่งระงับการฉีดยาก่อนครบกำหนดที่ตั้งไว้เดิม และอีกเช่นเคย ด้วยความงุนงงและประหลาดใจเป็นอย่างมาก ว่าทำไมถึงได้หายได้เร็วเกินคาด (เรื่องกินยานี้น้องเขาแอบกินโดยไม่ได้บอกให้แพทย์ทราบ เพราะเกรงว่าจะโดนตำหนิและสั่งห้าม)

หลังจากกินยาครบ ๗ วัน และผลการตรวจเลือดที่ออกมาในวันนี้ (๑๖ ก.ค.๒๕๕๐) ปรากฏว่า อาการของโรคโลหิตเป็นพิษหายไปจนหมดสิ้น และคาดว่าอีกไม่กี่วันน้องเขาก็จะออกมาจากโรงพยาบาลได้เสียที หลังจากนอนพักรักษาตัวมาเป็นเวลาเกือบปี นับว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีแก่ตัวของน้องและครอบครัวของน้องเขาเป็นอย่างยิ่ง

ผม (ดร.ตั้ม) ได้กราบเรียนเรื่องการรักษาโรคโลหิตเป็นพิษ โดยใช้ยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ให้หลวงพี่เล็กทราบ และท่านได้อนุญาตให้นำตำรับยานี้ มาประกาศให้สมาชิกเว็บพลังจิตทราบ เพื่อเป็นวิทยาทาน และเพื่อนำไปใช้รักษาผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยเพราะโรคนี้

ตำรับยารักษาโรคเลือดหรือโรคโลหิตเป็นพิษ มีดังนี้
หญ้าหนวดแมว ๓ บาท
ทองพันชั่ง ๓ บาท
ตะไคร้ ๑๐ บาท
ขิง ๑ บาท
นำตัวยามาต้มกับน้ำ จำนวน ๑ ลิตร เคี่ยวให้เหลือ ๑ แก้ว ดื่มก่อนนอน ๗ วัน ติดกัน ตัวยาต้องเปลี่ยนทุกวัน

หมายเหตุ : ๑. คนเป็นโรคความดันสูง ห้ามรับประทาน ๒. ตัวยาสดดีกว่าแห้ง

ก่อนที่จะดื่มยา ผม (ดร.ตั้ม) ได้แนะนำให้น้องเขาทำดังนี้

ตั้งนะโม ๓ จบ สวดไตรสรณาคมน์ แล้วอธิษฐานขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นองค์ต้น สมเด็จองค์ปัจจุบันเป็นที่สุด พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน และพระพรหม เทพเทวา เทวธิดา และท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ได้โปรดสงเคราะห์ให้ยานี้ ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคโลหิตเป็นพิษ ให้หายโดยฉับพลันทันทีด้วยเถิด
----------------------------------------------------------------------------

ในวาระเดียวกัน ท่านเมตตาให้ตำรายาแก้เบาหวานมาด้วย

เม็ดลูกตาลแก่ ๕ เม็ด ผ่าครึ่ง ต้มกับน้ำ ๑ หม้อ ดื่มแทนน้ำ
อย่างอาการหนักที่สุด ไม่เกิน ๓ หม้อ ก็จะหาย

พระอาจารย์กำชับว่า ให้คอยตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดไว้ด้วย
เพราะอาจลดต่ำเกินไปด้วยฤทธิ์ยาได้

ตั้มศักดิ์
17-11-2009, 10:25
เมื่อกินยาวันแรกจะมีอาการถ่ายท้องอยู่ชั่วระยะหนึ่ง อาการถ่ายท้องจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอาการของโรคที่เป็นว่ามากหรือน้อย วันต่อ ๆ ไป จะเป็นปกติและไม่มีอาการถ่ายท้องอีก

ปราโมทย์
27-03-2010, 19:58
จำได้เลยครับสูตรนี้ เพราะวันที่ท่านปู่หมอมา ผมนั่งอยูในห้องพอดีเลยครับ กำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น พอพระอาจารย์ท่านบอกถึงบางอ้อเลยครับ
ยารักษาโรคเลือด ตอนนั้นกำลังจำสลับกันว่า ข่าหรือขิง พอได้มาอ่านอีก ก็นึกได้เลยครับ

ประพนธ์คนแม่กลอง
28-03-2010, 15:08
คัดมาจากหนังสือ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๕ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๑



ตอบ : ขมิ้นชันเท่าหัวแม่มือ หญ้าแพรกหนึ่งกำมือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย ๓๐ นาที

ถ้ารักษาโรคมะเร็ง ต้องไม่เกินนระยะที่สอง ให้กิน ๓ วัน เช้าละถ้วย ถ้าหากรักษาโรคเบาหวานให้กิน ๓ วัน เว้น ๗ วัน แล้วกินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน กินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน รวมแล้วกิน ๓ ครั้ง ๙ วัน ระหว่างที่กินอยู่ ก็เท่ากับเดือนหนึ่ง ๓ เว้น ๗ ก็ ๑๐ ใช่ไหม ?

ระหว่างที่กินเดือนหนึ่ง เขาห้ามกินของหวานกับกะปิ เพราะฉะนั้น..จะรักษาโรคเบาหวานนี่ลำบากหน่อย ถ้าเป็นโรค อักเสบภายใน ประเภทตับอักเสบ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ อะไรพวกนี้ รักษาได้ทั้งนั้น กินลักษณะเดียวกับมะเร็ง ก็คือว่ากิน ๓ วันเท่านั้น



อ่านในหนังสือสมบัติพ่อให้ โรคเบาหวานกินยานี้ ๑ วาระ(กินยา ๓ วัน วันละ ๑ ถ้วย)

ยอดนคร
28-03-2010, 18:18
ขมิ้นเท่าหัวแม่มือ หญ้าแพรกหนึ่งกำมือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย ๓๐ นาที

กำมือหนึ่งมีตัวยาอะไรบ้างครับ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ

วัฒนวิกย์กิจ
28-03-2010, 18:44
ขมิ้นเท่าหัวแม่มือ หญ้าแพรกหนึ่งกำมือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย ๓๐ นาที


มีตัวยาอะไรบ้างครับ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ



คุณยอดนครไปอ่านได้จากตรงนี้ครับ

http://www.grathonbook.net/book/55.html

ส่วนยารักษาโรคเลือดแผนโบราณไปอ่านได้จากพลังจิต

http://board.palungjit.com/f61/ตำรับยารักษาโรคโลหิตเป็นพิษของท่านปู่ชีวกโกมารภัท-84433.html

อำนาจ
03-04-2010, 17:29
ส่วนของโกร๊ธฮอร์โมน อยู่ในบทสนทนาที่ได้จากการถอดเทปตอนหนึ่ง ดังนี้

ถาม : ผมลองทำดูแล้ว ปรากฏว่าก็ไม่เห็น... คืออาจจะเป็นเพราะ...(ไม่ชัด)...ผมเข้าใจว่าได้น้ำเยอะ แล้วแบ่ง ๓ ถ้วย

ตอบ : ขมิ้นเท่าหัวแม่มือ หญ้าแพรกหนึ่งกำมือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย ๓๐ นาที

ถ้ารักษาโรคมะเร็ง ต้องไม่เกินนระยะที่สอง ให้กิน ๓ วัน เช้าละถ้วย ถ้าหากรักษาโรคเบาหวานให้กิน ๓ วัน เว้น ๗ วัน แล้วกินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน กินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน รวมแล้วกิน ๓ ครั้ง ระหว่างที่กินอยู่ก็เท่ากับเดือนหนึ่ง ๓ เว้น ๗ ก็ ๑๐ ใช่ไหม ?

ระหว่างที่กินเดือนหนึ่ง เขาห้ามกินของหวานกับกะปิ เพราะฉะนั้น..จะรักษาโรคเบาหวานนี่ลำบากหน่อย ถ้าเป็นโรคอักเสบภายใน ประเภทตับอักเสบ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ อะไรพวกนี้ รักษาได้ทั้งนั้น กินลักษณะเดียวกับมะเร็ง ก็คือว่ากิน ๓ วันเท่านั้น

ถาม : แล้วจะมีอาการบอกไหมว่า กินถ้วยแรกแล้ว จะมีอาการอะไรขึ้นมาแล้วมีสิทธิ์จะหาย

ตอบ : ไม่มี อาตมาเคยกินเข้าไป หวานเจี๊ยบเลย ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตัวเองเป็นโรคอะไร หวานเหมือนอย่างกับใส่น้ำตาลเลย ลองทำกินดู เพราะเห็นว่ายานี้ไม่มีอันตรายอะไร กินเปล่า ๆ ก็ได้

มีผู้ใดทราบว่า ที่กล่าวมาตกลงเป็นยารักษาโรคเลือด หรือรักษาโกร๊ธฮอร์โมน ครับ หรือใช้ได้ทั้งสองกรณีครับ

๐ ชู ๐
05-04-2010, 10:54
ครั้งที่ทำยานี้ดื่ม พอดื่มเข้าไปรู้สึกเหมือนว่ายาวิ่งไปตามร่างกายเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนที่ดื่มด้วยกับผมก็มีอาการคล้ายกัน

แต่ก่อนทำยานี่ผม จุดธูปไหว้ท่านกลางแจ้ง และถวายพวงมาลัยด้วย

ลองทำดูนะครับ ตอนทำผมเอาส่วนทั้งหมดไปปั่นก่อน แล้วใส่น้ำปูนใส แล้วคั้นน้ำมาดื่ม ดื่มกันไปเกินถ้วยชาด้วย

วิจิตรา
05-04-2010, 12:03
ที่บอกว่า "ละลายด้วยน้ำปูนใส" ผมไม่เข้าใจตรงนี้ครับ
การละลายด้วยน้ำปูนใส คือ โขลกหญ้าแพรก ๑ กำมือกับขมิ้น
แล้วก็เอาน้ำปูนใสผสมลงไป จากนั้นคั้นให้ได้น้ำมา ๑ ถ้วยชาหรือเปล่าครับ?

๐ ชู ๐
19-05-2011, 14:22
ผมทำเช่นที่คุณวิจิตราเข้าใจครับ

ลูกกวาง
21-05-2011, 15:12
โรคเลือดนี่รวมถึงธาลัสซีเมียด้วยไหมคะ ?

อ้นสองเจ็ด
22-05-2011, 08:35
เม็ดลูกตาลแก่ ๕ เม็ด เป็นเม็ดลูกตาลที่มาจากต้นตาลโตนดใช่ไหมครับ และขอสอบถามอีกข้อหนึ่งครับ มียาที่ขับนิ่วในถุงน้ำดีและท่อน้ำดีบ้างไหมครับ

สุธรรม
22-05-2011, 15:49
โรคเลือดนี่รวมถึงธาลัสซีเมียด้วยไหมคะ ?

:4672615: ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับเลือดใช้ได้ทั้งนั้นครับ

เม็ดลูกตาลแก่ ๕ เม็ด เป็นเม็ดลูกตาลที่มาจากต้นตาลโตนดใช่ไหมครับ และขอสอบถามอีกข้อหนึ่งครับ มียาที่ขับนิ่วในถุงน้ำดีและท่อน้ำดีบ้างไหมครับ

:4672615: ใช่ครับ..ส่วนเรื่องนิ่วนั้น ให้ใช้แกนสับปะรด ๓ แกน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มกับน้ำสะอาด ๓ แก้ว ให้เหลือ ๑ แก้ว กินก่อนอาหารเช้าสัก ๓๐ นาที ๓ วันต่อเนื่องกันครับ

ลูกกวาง
24-05-2011, 03:06
ตอบ : โรคเลือด โรคเลือดนี่รักษาเอดส์ได้ด้วย มีอะไรบ้าง ?

ถาม : หญ้าหนวดแมว ๓ บาท ทองพันชั่ง ๓ บาท ตะไคร้ ๑๐ บาท ขิง ๑ บาท เอาต้มรวมกัน ใส่น้ำไป ๑ ลิตร ต้มเคี่ยวจนเหลือ ๑ แก้ว กินให้ติดต่อกัน ๗ วัน วันละ ๑ แก้ว ก่อนนอน

ตอบ : ตัวยาต้องเปลี่ยนไหม ? หรือว่าทั้ง ๗ วัน ใช้ตัวยาชุดเดียว?

ถาม : ใส่ตัวยาใหม่ตลอด อย่าซ้ำของเดิม กินไปอาการจะทุเลาลง

ขออนุญาตทวนความเข้าใจ จากวิธีการด้านบนนะคะ
หมายความว่า
ให้ต้มดื่มวันละ ๑ แก้ว หลังจากที่ต้มแล้วตัวยาที่ใส่ลงไปให้ทิ้งไม่ใช้ซ้ำ เท่ากับว่าต้องมียาทั้งสิ้น ๗ ชุด เพื่อครบ ๗ วัน หลังจากนั้นก็สามารถหยุดได้เลย ไม่ต้องกินต่อ เข้าใจถูกต้องไหมคะ

พอดีมีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียค่ะ เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์ และมีปัญหาเรื่องไทรอยด์ด้วยค่ะ แต่ว่ายังไม่ถึงเป็นโรคนะคะ คุณหมอเตือนแค่มีความเสี่ยงสูงหากไม่รักษาสุขภาพ

ขอบพระคุณสำหรับคำแนะคำค่ะ :baa60776:

อ้นสองเจ็ด
24-05-2011, 08:04
ผมขอถามอีกข้อหนึ่งครับ ในกรุงเทพฯ มีแหล่งขายหญ้าแพรกบ้างหรือเปล่าครับ เพราะบริเวณที่ผมอยู่มีแต่ตึกแถวครับ หาหญ้าแพรกลำบากครับผม

อ้นสองเจ็ด
24-05-2011, 09:43
:4672615: ใช่ครับ..ส่วนเรื่องนิ่วนั้น ให้ใช้แกนสับปะรด ๓ แกน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มกับน้ำสะอาด ๓ แก้ว ให้เหลือ ๑ แก้ว กินก่อนอาหารเช้าสัก ๓๐ นาที ๓ วันต่อเนื่องกันครับ

กราบขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ ผมลืมถามไปอีกข้อหนึ่งครับ เผอิญเป็นตับอ่อนอักเสบร่วมด้วยครับ เนื่องจากก้อนนิ่วไปอุดตันทางเดินท่อน้ำดีที่ใกล้กับตับอ่อนด้วย ทำให้น้ำย่อยไหลย้อนลงไปที่ตับอ่อนทำให้อักเสบ แกนสับปะรดจะช่วยขับนิ่วตรงนี้ได้ด้วยใช่ไหมครับ