PDA

View Full Version : อารมณ์จิตของคนเรา มันไวยิ่งกว่าลิง


ลัก...ยิ้ม
13-05-2010, 14:48
อารมณ์จิตของคนเรา มันไวยิ่งกว่าลิง


ที่มาของพระธรรมเรื่องนี้มีความสำคัญโดยย่อ ๆ ดังนี้ เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมของผม ๒ ท่าน สมมุติชื่อเธอว่า จอ กับ มอ ท่านมาร่วมสนทนาธรรมกับผม แล้วผมสังเกตดูความสามารถของเธอทั้งสองต่างกัน มีความดีก็ต่างกัน ตามจริตนิสัยและกรรมที่สะสมกันมาในอดีตชาติ โดยย่อดังนี้

๑. จอ มีสมถะภาวนาดี เข้มแข็ง แต่วิปัสสนาภาวนาอ่อน มีผลทำให้เมื่อถูกกระทบโดยอายตนะสัมผัสภายนอก (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสและธรรมารมณ์) มากระทบกับอายตนะสัมผัสภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ) แล้วมักจะหวั่นไหว ไม่มั่นคง จึงทำให้เกิดอารมณ์ ๒ (พอใจกับไม่พอใจ หรือราคะกับปฏิฆะ) ง่าย หรือเป็นอยู่เกือบปกติธรรมดา

๒. มอ สมถะภาวนาก็ดี แต่ยังสู้ จอ ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ วิปัสสนาภาวนา ซึ่งสามารถใช้ตัดกิเลสให้ตายได้ ท่านดีกว่า จอ มาก (ตัวสมถะภาวนาไม่สามารถจะฆ่ากิเลสได้ ได้แค่ระงับกิเลสไว้ชั่วคราวเท่านั้น)

๓. จากเหตุผลในข้อ ๒ ทำให้ มอ หวั่นไหวต่ออายตนะสัมผัสที่เข้ามากระทบใจเธอมีน้อย เพราะกำลังของวิปัสสนามีมาก เธอจึงจับทุกสิ่งที่กระทบมาพิจารณาเป็นวิปัสสนาได้ เมื่อเธอมีปัญญาบารมีดีกว่า จึงทำให้สัจจะบารมีของเธอเข้มแข็งมาก ตั้งใจจะทำสิ่งใด เธอก็ไม่พลาดในสิ่งที่เธอตั้งใจไว้

ลัก...ยิ้ม
13-05-2010, 16:29
๔. มอ ใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหา หรืออุปสรรค์ใด ๆ ที่เข้ามากระทบอารมณ์ของเธอ (กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ)

๕. มอ ตื่นเช้าขึ้นก็ใช้บารมี ๑๐ ให้เกิดประโยชน์แก่เธอ โดยใช้อธิษฐานบารมีว่า จะทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพานจุดเดียว เป็นต้น

๖. มอ ใช้วิปัสสนาญาณ ๙ ข้อที่ ๑-๔ อยู่เป็นปกติ คือ ขั้นหนึ่ง มองทุกสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยง เพราะตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ ขั้นสอง มองทุกสิ่งในโลกนี้ที่สุดพังหมด ไม่มีอะไรเหลือ ขั้นสาม มองหาทุกข์จากความไม่เที่ยง ทั้งโลกภายนอกและโลกภายใน คือ ขันธโลกหรือขันธ์ ๕ ที่จิตเธออาศัยอยู่ชั่วคราว ขั้นที่สี่ พิจารณาถึงภัยอันเกิดจากกฎของกรรม ซึ่งตามมาให้ผลกับร่างกายที่จิตเธออาศัยอยู่ ซึ่งไม่มีใครจะหนีภัยตัวนี้พ้นได้ เพราะกฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ และให้ผลไม่ผิดตัวด้วย เป็นต้น

ลัก...ยิ้ม
14-05-2010, 10:42
๗. ทั้ง จอและ มอ พูดถึงหลวงปู่บุดดา มอว่า หลวงปู่ท่านเมตตาให้เห็นจิตของท่านซึ่งใสเป็นแก้ว ข้างในมีลิงตัวเล็ก ๆ สีขาว แต่ใสเป็นแก้วนั่งอยู่ ลิงขยับหน้าตาแบบลิงอยู่ข้างใน น่ารักมาก เมื่อสนทนากันมาถึงจุดนี้ หลวงปู่บุดดา ท่านก็เมตตามาสอน จอ ว่า

• “ข้าก็ให้มันเห็นว่า อารมณ์จิตของคนเรามันไวยิ่งกว่าลิงปุถุชนตามจับลิงไม่ทัน บัดเดี๋ยวส่งออกนอกจิตไปโน่นไปนี่ทั้งวันทั้งปีไม่รู้เรื่อง มันออกไปตีกับชาวบ้าน กับวัตถุสิ่งของกับสัตว์ต่าง ๆ อยู่เรื่อย ลิงมันไปไว เพราะ ราคะ โทสะ โมหะ มันเข้ามาจูงจมูก ทางอายตนะทั้ง ๖ ไปมีเรื่องกับเขาทั้งปีทั้งชาติ แต่อย่างพระอริยเจ้าเขาอบรมลิง จับลิงมาขังไว้ในจิตได้ตามลำดับ จนในที่สุด ถ้าจิตใสเป็นแก้วอย่างข้านี้ ลิงมันก็เคลื่อนไหวได้ คือมีอารมณ์รับรู้ธรรมภายนอกที่มากระทบ"

• “เอ็งอย่าว่าพระอรหันต์ไม่มีอารมณ์ไม่ได้นา รู้แต่รู้อยู่ในจิต ลิงมันรับรู้ แต่ไม่มีกำลังวิ่งออกไปเต้นอยู่นอกจิต มันจะรับรู้อย่างสงบอยู่ในจิต อายตนะ ๖ ยังคงมีวิญญาณสัมผัส รายงานมาให้ทราบตามปกติ รูปสวย- รูปไม่สวย เสียงเพราะ-ไม่เพราะ กลิ่นหอม-ไม่หอม รสอร่อย-ไม่อร่อย กายสัมผัสดี-ไม่ดี รู้หมด ไม่ใช่ไม่รู้ มันรู้ดีเสียด้วยสิ ตาเห็นรูป เห็นตามปกติ เพราะตาท่านไม่บอด หูไม่หนวก จมูกไม่ตัน ลิ้นไม่พิการ ร่างกายก็ปกติ รู้เท่าที่อายตนะสัมผัสยังดีอยู่ รู้ตามกำลังของอายตนะนั้น และรู้ด้วยจิตหมดอุปาทาน หมดไฟราคะ โทสะ โมหะ ปรุงแต่ง ลิงหรืออารมณ์ของจิตมันก็หลอกเราไม่ได้ จึงออกไปอาละวาดไม่ได้ หมดเรื่องพอดี ๆ” (จอคิดอยากมีอารมณ์หมดเรื่องพอดีอย่างหลวงปู่บ้าง)

• “ก็เอ็งก้มหน้าก้มตาขังลิงเข้าไว้สิ อย่าปล่อยให้มันถูกจูงจมูกเพ่นพ่านออกไปข้างนอกจิตให้มากนัก ขยันตามจับมันกลับมาให้บ่อย ๆ อย่าปล่อยให้ลิงมันวิ่งไปตามไฟราคะ โทสะ โมหะให้มากนัก ถ้ามันดื้อก็ลงแส้ลงศอกกับมันบ้าง หนัก ๆ เข้ามันก็จะหมดฤทธิ์ วิ่งช้าลง ๆ ตามลำดับ อย่าขี้เกียจตามลิง สักวันหนึ่ง ถ้าเอ็งไม่ทิ้งความเพียร เอ็งก็จะจับลิงขังไว้ในจิตได้อย่างข้านี่แหละ”

ลัก...ยิ้ม
14-05-2010, 10:42
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com