PDA

View Full Version : อารมณ์หนักใจ กับอานาปานุสติ


ลัก...ยิ้ม
19-03-2010, 11:34
อารมณ์หนักใจ กับอานาปานุสติ


ในวันต่อมาสมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตาช่วยตรัสสอนต่อ เรื่องอารมณ์หนักใจ คือ ความเครียดจากลืมอานาปาว่า

๑. “จักอยู่ที่ใดก็ตาม จักทำงานประเภทใดก็ตาม ต้องกำหนดจิตจับเป็นกรรมฐาน รู้ลมอยู่ตลอดเวลา”

๒. “พยายามทำให้จิตเกิดความเคยชินในอารมณ์สมถะและวิปัสนานั้น ๆ”

๓. “รู้ด้วยอารมณ์เบา ๆ ทำจิตให้สบาย ๆ เวลานี้อารมณ์จิตของเจ้ายังค่อนข้างหนักอยู่ แต่รู้แล้ว จงหมั่นวางจิตให้สบาย อย่าไปยึดเกาะเวทนานั้น ๆ”

๔. “และจงอย่าลืมรู้ลมให้มาก ๆ เพราะอานาปานุสติกรรมฐานนี้ สามารถระงับเวทนาของร่างกายได้อยู่แล้ว อย่าปล่อยจิตให้เกาะเวทนามากเกินไป เพราะอาการเวทนาจักดึงจิตให้ฟุ้งซ่าน ก็พึงยิ่งต้องรู้ลม เพราะอานาปานุสติระงับความฟุ้งซ่านได้อย่างดี”

ลัก...ยิ้ม
19-03-2010, 14:52
๕. “อนึ่ง เป็นปกติของคนเรา เมื่อร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วย อารมณ์วิตกจริตมันเกิดขึ้น ก็ต้องหมั่นรู้ลมให้มากขึ้น เพราะอานาปานสติแก้วิตกจริตได้เป็นอย่างดีเช่นกัน”

๖. “อนึ่ง ควรคิดพิจารณาให้จิตยอมรับกฎของธรรมดา ว่าสภาพที่แท้จริงของร่างกาย ย่อมเป็นไปเพื่ออาพาธ (ป่วย) เป็นธรรมดา”

๗. “ไม่มีร่างกายของผู้ใดที่เกิดมาแล้ว จักไม่มีโรคภัยเข้าเบียดเบียน ชิคัจฉา ปรมา โรคา แม้ความหิวก็ได้ชื่อว่าเป็นโรค ที่เบียดเบียนอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นขึ้นชื่อว่ามีร่างกาย ย่อมหนีอาพาธไปไม่พ้น หนีความเบียดเบียนไปไม่พ้น”

ลัก...ยิ้ม
23-03-2010, 11:04
๘. “เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จงอย่าหนี ทำจิตให้ยอมรับความเป็นจริงของร่างกาย เบื่อหน่ายร่างกายด้วยเห็นทุกข์ เห็นโทษของร่างกาย ทำจิตให้คลายกำหนัดในการอยากมีร่างกายนี้เสีย ด้วยเห็นสภาพธาตุ ๔ มาประชุมกันเป็นอาการ ๓๒ เป็นของสกปรก และไม่เที่ยง มีความเสื่อม และสลายตัวไปในที่สุด”

๙. “เมื่อไม่อยากมีร่างกายเกิดขึ้นในอารมณ์จิตแล้ว ก็จงอย่าทำอารมณ์จิตให้เครียด จงปล่อยวางอารมณ์ที่หนักใจนั้นเสีย ทำอารมณ์จิต ให้ยอมรับสภาพตามความเป็นจริงของร่างกายนั้นเสีย จิตก็จักเป็นสุข มีอารมณ์เบาได้” (ก็รับคำสั่งสอนนั้น แต่ก็ยังมีความหนักใจ เพราะวางอารมณ์เบื่อไม่ได้)

๑๐. ทรงตรัสว่า “ที่ยังวางไม่ลง เพราะจิตไร้กำลังตัดสักกายทิฏฐิ การพิจารณายังไม่ถึงที่สุด คือ จิตยังยึดเกาะร่างกายอยู่ เจ้าก็ต้องอาศัยรู้ลม ทำอานาปานุสติให้จิตมีกำลัง”

ลัก...ยิ้ม
25-03-2010, 10:50
๑๑. “การเข้าถึงฌาน จิตจักสงบได้เป็นระยะ ๆ ตามที่ต้องการ ตราบนั้นจิตจักมีกำลังพิจารณาร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเราได้จนถึงที่สุด เมื่อนั้นจิตจักยอมรับกฎของธรรมดา และวางอารมณ์หนักใจลงได้”

๑๒. “เจ้าเห็นความสำคัญของอานาปานสติหรือยัง เห็นแล้วก็จงหมั่นเพียรให้มาก ๆ กรรมฐานทุกกอง จักเป็นผลขึ้นมาได้ ก็ด้วยอิงอานาปานสตินี้ พยายามรู้ลมให้มากในระยะนี้ จักอยู่ในอิริยาบถไหนก็ตาม จักทำงานอะไรอยู่ก็ตาม ให้จิตกำหนดรู้ลมให้มาก ๆ”



ธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ (เล่ม ๔)
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com