เถรี
29-12-2009, 09:57
นั่งสบาย ๆ วางลำตัวตรง ๆ แต่ไม่ต้องเกร็ง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าให้ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออกให้ไหลตามลมหายใจออกมา ใช้คำภาวนาที่เราถนัด เคยภาวนายาวสั้นอย่างไร ถ้าถนัดให้ใช้อย่างนั้น ความรู้สึกทั้งหมดถ้าหลุดจากลมหายใจเข้าออก แปลว่าความฟุ้งซ่านจะเข้ามาถึง ต้องรีบดึงกลับเข้ามาอยู่กับลมหายใจอีกครั้ง
แรก ๆ อาจต้องระบายลมหายใจออกยาว ๆ เพื่อไล่ลมหยาบออกให้หมดก่อน หลังจากนั้นแล้วก็กำหนดลมตามปกติ ไม่ต้องไปบังคับ จะแรงจะเบา จะยาวจะสั้น อยู่ที่สภาพร่างกายของเราต้องการ เราแค่เอาความรู้สึกไหลตามเข้าไป ไหลตามออกมา กำหนดรู้ว่าตอนนี้ลมผ่านตรงจุดไหน แรงเบาแค่ไหน พร้อมกับคำภาวนาของเราก็พอ
จากนั้นกำหนดกำลังใจของเรา แผ่เมตตาออกไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าเราเป็นผู้ไม่เป็นศัตรูกับใคร ยินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วโลก สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เราตั้งใจทำอยู่ โดยเฉพาะความดีในศีล สมาธิ และปัญญา ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายได้โมทนาและมีส่วนในส่วนกุศลนี้ทั้งหลายด้วยเถิด แผ่ความรู้สึกของเราออกไปให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ารู้สึกไม่ชัดเจนก็ให้ดึงให้หดแคบเข้ามา แล้วให้กำหนดแผ่ออกไปใหม่ ซ้อมทำอย่างนี้บ่อย ๆ เพื่อความคล่องตัว ถ้าใครทำได้คล่องตัว วงสมาธิหรือทิพจักขุญาณ ก็จะกว้างไกล สามารถกำหนดรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนแม้ระยะไกล ๆ ก็ตาม
วันนี้เราจะมาซ้อมในเรื่องของกำลังใจว่า เราแบ่งความรู้สึกเกาะพระ เกาะการภาวนา พร้อมกับการทำงานไปด้วยนั้น เขาแบ่งกันอย่างไร ? ให้กำหนดภาพพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่ง ขนาดที่พอดี ๆ กำลังสบาย กำหนดได้ง่ายของเรา เอาไว้อยู่บนศีรษะ หายใจเข้าภาพพระก็สว่าง หายใจออกภาพพระก็สว่าง หายใจเข้าภาพพระไหลตามลมเข้าไปในท้อง หายใจออกภาพพระไหลขึ้นไปอยู่บนศีรษะ หายใจเข้าภาพพระใหญ่ขึ้นครอบเราลงมาทั้งตัว หายใจออกภาพพระเล็กลงเลื่อนไปอยู่บนศีรษะ
หายใจเข้าภาพพระเล็กลงไปอยู่ในท้อง หายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะ แล้วกำหนดให้เลื่อนมาอยู่ในกะโหลกของเรา หันหน้าไปด้านเดียวกับเรา เป็นพระพุทธรูปแก้วใส ๆ กำหนดได้สบาย ๆ ขนาดหน้าตักเท่าไรอยู่ที่เราพอใจ ชัดเจนหรือไม่ชัดเจนไม่เป็นไร ให้รู้ว่ามีอยู่ก็ใช้ได้แล้ว
แรก ๆ อาจต้องระบายลมหายใจออกยาว ๆ เพื่อไล่ลมหยาบออกให้หมดก่อน หลังจากนั้นแล้วก็กำหนดลมตามปกติ ไม่ต้องไปบังคับ จะแรงจะเบา จะยาวจะสั้น อยู่ที่สภาพร่างกายของเราต้องการ เราแค่เอาความรู้สึกไหลตามเข้าไป ไหลตามออกมา กำหนดรู้ว่าตอนนี้ลมผ่านตรงจุดไหน แรงเบาแค่ไหน พร้อมกับคำภาวนาของเราก็พอ
จากนั้นกำหนดกำลังใจของเรา แผ่เมตตาออกไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าเราเป็นผู้ไม่เป็นศัตรูกับใคร ยินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วโลก สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เราตั้งใจทำอยู่ โดยเฉพาะความดีในศีล สมาธิ และปัญญา ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายได้โมทนาและมีส่วนในส่วนกุศลนี้ทั้งหลายด้วยเถิด แผ่ความรู้สึกของเราออกไปให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ารู้สึกไม่ชัดเจนก็ให้ดึงให้หดแคบเข้ามา แล้วให้กำหนดแผ่ออกไปใหม่ ซ้อมทำอย่างนี้บ่อย ๆ เพื่อความคล่องตัว ถ้าใครทำได้คล่องตัว วงสมาธิหรือทิพจักขุญาณ ก็จะกว้างไกล สามารถกำหนดรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนแม้ระยะไกล ๆ ก็ตาม
วันนี้เราจะมาซ้อมในเรื่องของกำลังใจว่า เราแบ่งความรู้สึกเกาะพระ เกาะการภาวนา พร้อมกับการทำงานไปด้วยนั้น เขาแบ่งกันอย่างไร ? ให้กำหนดภาพพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่ง ขนาดที่พอดี ๆ กำลังสบาย กำหนดได้ง่ายของเรา เอาไว้อยู่บนศีรษะ หายใจเข้าภาพพระก็สว่าง หายใจออกภาพพระก็สว่าง หายใจเข้าภาพพระไหลตามลมเข้าไปในท้อง หายใจออกภาพพระไหลขึ้นไปอยู่บนศีรษะ หายใจเข้าภาพพระใหญ่ขึ้นครอบเราลงมาทั้งตัว หายใจออกภาพพระเล็กลงเลื่อนไปอยู่บนศีรษะ
หายใจเข้าภาพพระเล็กลงไปอยู่ในท้อง หายใจออกภาพพระใหญ่ขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะ แล้วกำหนดให้เลื่อนมาอยู่ในกะโหลกของเรา หันหน้าไปด้านเดียวกับเรา เป็นพระพุทธรูปแก้วใส ๆ กำหนดได้สบาย ๆ ขนาดหน้าตักเท่าไรอยู่ที่เราพอใจ ชัดเจนหรือไม่ชัดเจนไม่เป็นไร ให้รู้ว่ามีอยู่ก็ใช้ได้แล้ว